ฉันเข้าไปดู Rocket Man หนังชีวประวัติของ Elton John โดยไม่รู้มาก่อนว่ามันจะมาแนว Jukebox Musical แบบเอาเพลงของเขามาร้อยเรียงเล่าเรื่องชีวิตในแบบแฟนตาซีที่ตัวละครลุกขึ้นมาเต้นมาร้องเล่าชีวิตตั้งแต่เด็กจนโต เพราะคาดหวังว่าจะมาดราม่าจ๋าแบบ Bohemian Rhapsody พอมาแบบนี้ตอนแรกก็แอบสตั๊นท์นิดนึงแล้วค่อยปรับมู๊ดได้จึงค่อย ๆ เพลินไปกับการเรียงร้อยเพลงต่าง ๆ บวกกับดีไซน์ในแต่ละฉากที่พาเราเข้าไปในหัวและจินตนาการของเขา ความเพลินอีกหนึ่งอย่างคือการได้เห็นว่าแต่ละเพลงดังของเขานั้นเกิดขึ้นในช่วงไหนและได้รับแรงบันดาลใจมากจากอะไรบ้างในชีวิต
คือเอาเข้าจริงชีวิตของ Elton John มันก็มีความแพทเทิร์นชีวิตประวัตินักร้องใหญ่ที่เราเจอได้จากทุกเรื่องกับ Theme ที่ว่า “ ยิ่งดังยิ่งโดดเดี่ยว ” เริ่มตั้งแต่สมัยเป็นตุ๊ดเด็กขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ต้องมานั่งร้องเพลง I Want Love อยู่คนเดียวในมุมมืด โชคดีว่าดนตรีและเปียโนทำให้เขารู้สึกตัวเองมีค่าได้ค้นพบตัวเอง ได้เข้าโรงเรียนดนตรี ไปเป็นแบคอัพวงให้คนอื่น จนลากยาวได้มาเจอกับ Bernie Taupin เพื่อนนักแต่งเพลงคู่หู ได้เซ็นสัญญา ได้เป็นนักร้องดัง เจอกับชื่อเสียง เหล้ายาทุกรูปแบบ คนรอบข้าง คนรักที่จ้องแต่จะกอบโกย จนสามารถผ่านพ้นมาได้และกลายเป็น Elton ทุกวันนี้
แต่ประเด็นที่ touch ใจฉันมากที่สุดมีอยู่ 2 เรื่องคือการที่เอลตันถูกแม่แท้ ๆ บอกกับเขาว่า เขาไม่มีทางที่จะเจอรักแท้ไปตลอดชีวิตเพียงเพราะเขาเป็นเกย์ นี่กลายเป็นแผลใหญ่ที่เขาต้องต่อสู้เพราะรู้สึกว่าต่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จแค่ไหนก็ต้องตายคนเดียว ไม่มีทางได้เจอรักแท้ ยิ่งพอมาเจอผู้ชายคนแรกที่เขารักอย่าง John Reid ที่สุดท้ายกลายเป็นผู้จัดการที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ก็เลยยิ่งทำให้เกลียดตัวเองมากขึ้น เอาไปลงกับยา กับเซ็กส์ หรือแม้แต่ยอมที่จะแต่งงานกับผู้หญิงเพราะคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ นี่ชี้ให้เห็นว่าครอบครัวสำคัญแค่ไหนในการปลูกฝังทัศนคติเรื่องรสนิยมทางเพศ เพราะสิ่งที่พ่อแม่พูด สำหรับบางคนมันถูกจำและฝังหัวไปตลอด ส่งผลต่อการใช้ชีวิตทำให้เกลียดตัวเอง คือทุกคนไม่ได้โชคดีแบบเอลตันที่สามารถก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ด้วยการยอมรับและรักตัวเองในที่สุดและพิสูจน์ให้เห็นว่าคนอย่างเขาก็มีค่าที่จะเจอรักแท้
อีกเรื่องนึงที่ชอบมากในเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ฉันเพื่อนแท้ของ Elton กับ Bernie คู่หูนักแต่งเพลงของเขา ฉันชอบที่เอลตันเคยพยายามจะจูบ Bernie แต่ Bernie ปฎิเสธเพราะเขาไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ก็ยังรักและห่วงเอลตันเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเอลตันจะทำแย่กับเขาขนาดไหน เขาก็ยังยืนอยู่ข้าง ๆ เป็นความสัมพันธ์ที่รู้ใจกันมาก ๆ เบอร์นี่แต่งเนื้อมา เอลตันมาแต่งทำนอง สร้างเพลงคลาสสิคมากมายให้โลกนี้อย่าง Your Song , Tiny Dancer , Rocket Man , Candle In The Wind
Taron Egerton รับบทเป็นเอลตัน ได้ดีมาก ดีมาก ๆ ชนิดที่ว่าบางมุมก็แอบเหมือนจนสับสนว่าตัวจริง ตัวปลอม พาร์ทดราม่าก็ทำให้เราอิน ส่วนพาร์ท Musical ที่ร้องเองเต้นเองก็เอาอยู่ แถมยังใช้เสียงตัวเองด้วย ส่วนตัวชอบซีนเพลง Rocket Man มาก ๆ ทั้งดีไซน์ในฉากนี้ที่ร้องในน้ำลากยาวไปจนถึงโรงพยาบาลที่เปลี่ยนเป็นองค์กรนาซ่า เป็นอะไรที่สร้างสรรค์มาก อีกส่วนทีดีมากคือแฟชั่นการแต่งตัวในเรื่องที่เล่นสนุกกับการแต่งตัวเต็มที่มาก ๆทำให้เห็นว่านักร้องยุคนั้นที่เขาถูกกดดันให้ปิดบังเรื่องรสนิยมทางเพศจนต้องเอาทุกอย่างมาใส่บนเวทีเพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ลองดูทั้ง Elton John หรือ Freddie Mercury ด้วย
เป็นหนังที่ออกจากโรงมาแล้วรู้สึกอิ่มสำหรับคนรักการดูหนัง รักการฟังเพลงอย่างเรา ดูเสร็จแล้วอยากไปหยิบงานเก่า ๆ ของเขาสมัย ROCK&ROLL ยุค 70’s มาฟังอีก
TOP 5 เพลง Elton John ที่ฉันรัก
1. Tiny Dancer
2. Goodbye Yellow Brick Road
3. I Want Love
4. Rocket Man
5. Your Song
#RocketmanMovie #trasherbangkok
Search